เนื่องจากเป็นสถานที่สาธารณะกลางแจ้งเสาธงถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในหน่วยงานราชการ บริษัท โรงเรียน จัตุรัส และสถานที่อื่นๆ เนื่องจากต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอกเป็นเวลานาน ความปลอดภัยของเสาธงเป็นสิ่งสำคัญ และระดับความต้านทานลมเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการวัดคุณภาพของเสาธง.
ระดับความต้านทานลมของเสาธง
ระดับความต้านทานลมของเสาธงโดยทั่วไปจะแบ่งตามแรงต้านลม (ความเร็วลม) โดยทั่วไปเสาธงสแตนเลสคุณภาพสูงสามารถทนต่อแรงลมได้ 8-10 ระดับ (ลมแรง)
ความเร็ว 17.2 ม./วินาที-24.5 ม./วินาที ในขณะที่เสาธงระดับไฮเอนด์ (เช่น เสาธงทรงกรวยที่หนาขึ้นหรือวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์) สามารถทนต่อพายุไต้ฝุ่นระดับ 12 ได้ (ความเร็วลมสูงกว่า 32.7 ม./วินาที)
เสาธงที่มีความสูงต่างกันจะมีความสามารถในการต้านทานลมต่างกัน ตัวอย่างเช่น:
เสาธงขนาด 6-10 เมตร: ทนลมระดับ 8 เหมาะกับสภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น โรงเรียน สถานประกอบการ และสถาบันต่างๆ
เสาธงสูง 11-15 ม. ทนลมระดับ 10 เหมาะกับลานกว้าง สนามกีฬา ฯลฯ
เสาธงสูง 16 เมตรขึ้นไป: จำเป็นต้องใช้วัสดุที่หนาและการออกแบบที่ทนทานต่อลมอย่างมืออาชีพ ซึ่งสามารถทนต่อลมระดับ 12 ขึ้นไปได้
ปัจจัยที่มีผลต่อความต้านทานลมของเสาธง
การเลือกวัสดุ: สแตนเลส (304/316) หรือวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงและทนต่อลมได้ดีกว่า
การออกแบบโครงสร้าง: เสาธงทรงกรวยมีความมั่นคงมากกว่าเสาธงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากันเสาธงและเสาธงแบบแบ่งส่วนเหมาะสำหรับคุณสมบัติพิเศษระดับสูง
การติดตั้งฐานราก: ฐานรากคอนกรีตที่แข็งแรงและการออกแบบชิ้นส่วนฝังที่เหมาะสมสามารถปรับปรุงความต้านทานลมได้
มาตรการป้องกันฟ้าผ่าและป้องกันแผ่นดินไหว: สูงเสาธงจำเป็นต้องติดตั้งสายล่อฟ้าและควรพิจารณาการออกแบบให้ป้องกันแผ่นดินไหวเพื่อลด
ความเสี่ยงที่เกิดจากลมแรงหรือฟ้าผ่า
เมื่อเลือกเสาธงนอกจากความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานแล้ว คุณควรใส่ใจระดับความต้านทานลมด้วยเพื่อความปลอดภัยเสาธงในสภาพอากาศเลวร้าย
การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม การออกแบบทางวิทยาศาสตร์ และการติดตั้งโดยมืออาชีพสามารถปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพเสาธงต้านทานลมและรับรองความปลอดภัยสาธารณะ
หากคุณมีความต้องการซื้อหรือคำถามใด ๆ เกี่ยวกับ เสาธงกรุณาเยี่ยมชมwww.cd-ricj.comหรือติดต่อทีมงานของเราได้ที่contact ricj@cd-ricj.com.
เวลาโพสต์: 24 มี.ค. 2568


